
ไวร์เมช คืออะไร สำคัญยังไง จีเอสวัสดุ มีคำตอบ
การก่อสร้างอาคาร ที่อยู่อาศัย และถนนหนทาง จำเป็นที่จะต้องมีโครงสร้างที่ดีและใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มความแข็งแรงและความคงทน ไม่เช่นนั้น สิ่งก่อสร้างก็จะไม่แข็งแรง รองรับน้ำหนักได้น้อย และมีโอกาสที่จะทรุดตัวหรือถล่มสูง ซึ่ง “ตะแกรงไวร์เมช” เป็นหนึ่งในสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเพิ่มความแข็งแรงให้กับพื้นโครงสร้างของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ
ไวร์เมชคืออะไร?
Contents
Toggleไวร์เมช คือ ตะแกรงเหล็กกล้า ที่เป็นเหล็กเส้นกลมหรือเหล็กเส้นข้ออ้อย นำมาเชื่อมติดกันเป็นตารางเพื่อใช้ประโยชน์ต่างๆ โดยจะผลิตจากลวดเหล็กรีดเย็น (Cold Drawn Steel Wire) ใช้ในการเสริมความแข็งแกร่งของคอนกรีต โดยไวร์เมชจะถูกทอติดกันเป็นผืนให้มีลักษณะเหมือนตาราง ส่วนการเชื่อมอาร์กจะทำด้วยการใช้ไฟฟ้า ทำให้จุดตัดทุกจุดกลายเป็นเนื้อเดียวกันอย่างสวยงาม ช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการรับแรงดึงแรงอัด เมื่อนำไปใช้ในงานก่อสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ช่วยให้ยึดเกาะได้ดี คอนกรีตไม่แตกร้าวง่าย ไวร์เมชมีขนาดของเส้นลวดตั้งแต่ 2 – 12 มิลลิเมตร ซึ่งลูกค้าสามารถนำไวร์เมชไปใช้งานได้ทั้งแบบม้วนและแบบแผ่น ตามความเหมาะสมของการใช้งาน
โดยไวร์เมชนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อคนงานคนหนึ่งรู้สึกว่าการผูกเหล็กทีละเส้น เป็นการกระทำที่ใช้เวลานาน กว่าจะผูกเหล็กเสร็จทีละเส้น ต้องใช้แรงมหาศาลและใช้เวลามากมาย ทำให้ใช้ระยะเวลานานกว่าที่ตัวบ้านจะแล้วเสร็จ แต่ถ้าเรามีวิธีในการทำให้ระยะเวลาการสร้างบ้านใช้ระยะเวลาสั้นลง และไม่ต้องมาเปลืองแรงในการผูกเหล็กทีละเส้นอย่างที่เคยทำ จึงมีการคิดค้นวิธีดังกล่าวขึ้น จนมาเป็นวิธีการผูกเหล็กเป็นตะแกรงผืนยาวๆ ที่สามารถม้วนเก็บไว้ได้ ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ ขนย้ายง่าย ปูง่าย อีกทั้งยังช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีและสามารถประหยัดระยะเวลาในการทำงานได้จริง ตั้งแต่นั้นมา ไวร์เมชจึงได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ และเข้ามาทดแทนการผูกเหล็กด้วยมือมาจนถึงปัจจุบัน โดยประเภทของไวร์เมชนั้นมี 4 แบบ ได้แก่

ชนิดของไวร์เมช
1.ไวร์เมชแบบม้วน
จะทำจากลวดเส้นเล็ก ตั้งแต่ 4 มิลลิเมตร ลงมาเพราะลวดเส้นเล็กจะม้วนหรืองอได้ เหมาะสำหรับงานพื้นอาคารบ้านเรือนทั่วไป หรือโครงสร้างที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก
2.ไวร์เมชแบบแผง
จะมีความแข็งแรงมากและลวดมีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 6 มิลลิเมตร ขึ้นไป และลวดอาจจเป็นลวดข้ออ้อย เหมาะกับการนำไปสร้างงานขนาดใหญ่ งานที่ต้องการความแข็งแรงของฐาน เช่น ถนนคอนกรีต ลานจอดรถในห้าง พื้นโกดังโรงงาน ลานสนามบิน
3.ไวร์เมชแบบตัวหนอน

4.กัลวาไนซ์ไวร์เมช
กัลวาไนซ์ไวร์เมช (Galvanized Wire Mesh) เป็นไวร์เมชที่มีจุดประสงค์ในการนำไปใช้ปูทำบนเพดานเพื่อกันฉนวนความร้อน ไวร์เมชชนิดนี้จะชุบกัลวาไนซ์เพื่อป้องกันสนิม ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ซึ่งไวร์เมชชนิดนี่จะถูกนำไปใช้ในงานหลังคาเป็นหลัก
ไวร์เมชที่มีคุณภาพ ต้องได้มาตรฐาน มอก.
คุณภาพมาตรฐาน ผลิตโดยโรงงานที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ โดยได้รับ มาตรฐาน มอก.737-2549 ASTM A185-79, BS4483
ข้อดีและข้อเสียของการใช้ไวร์เมช
ข้อดี
- ประหยัดเวลาและแรงงานในการก่อสร้าง สามารถนำไปใช้ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาในการผูกเหล็ก
- เพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างคอนกรีต เมื่อคอนกรีตแข็งแรง โอกาสที่จะเสื่อมสภาพ แตกร้าว หักบิ่น หรือผุพังก็จะน้อยลงไปด้วย
- ช่วยให้คอนกรีตกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ คอนกรีตจะกระจายตัวไปอย่างทั่วถึง และมีความเรียบเสมอ สวยงาม
- ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ เช่น สร้างพื้น ผนัง หรือขั้นบันได เป็นต้น
- ผลิตตามขนาดที่ต้องการได้ ไวร์เมชสามารถผลิตตามขนาดที่ผู้ใช้งานต้องการได้ ว่าอยากใช้ลวดที่มีความหนาเท่าไหร่ อยากได้ช่องตารางห่างกันเท่าไหร่ หรืออยากได้ความกว้างความยาวใหญ่แค่ไหน เป็นต้น
- คุณภาพดีกว่า เพราะไวร์เมชจะถูกผลิตขึ้นที่โรงงาน ทำให้ระยะห่างของช่องตาราง ความสวยของรอยเชื่อมเหล็ก และอื่นๆ มีมาตรฐานและคุณภาพที่สูงกว่า
ข้อเสีย
- ราคาสูงกว่าการใช้เหล็กเส้น แต่คุณภาพและผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ไวร์เมชดีกว่าเหล็กเส้นธรรมดามาก ทั้งความแข็งแรง ความเรียบร้อย และความสม่ำเสมอของตัวตะแกรง อีกทั้งยังถูกผลิตมาจากเครื่องจักรในโรงงาน จึงทำให้ราคาไวร์เมชสูงกว่าเหล็กเส้นทั่วไป
- ต้องติดตั้งโดยทีมงานที่มีความชำนาญ หากทีมช่างที่ก่อสร้างไม่มีความชำนาญในด้านนี้ ประสบการณ์น้อย หรือทำงานไม่ละเอียดและเอาใจใส่ อาจทำให้พื้น ผนัง หรืออาคาร ดูไม่สวยงาม ไม่เรียบร้อย และเสี่ยงที่จะต้องรื้อก่อสร้างใหม่ได้
การเลือกขนาดไวร์เมชกับงานที่เหมาะสม
ไวร์เมชขนาด 3 มิลลิเมตร ระยะช่องห่างจะมีตั้งแต่ 10×10 เซนติเมตร ถึง 25×25เซนติเมตร ส่วนใหญ่มักจะใช้ในงานปูพื้นบ้านโดยทั่วไป และพื้นอาคารเป็นส่วนใหญ่
- ไวร์เมชขนาด 4 มิลลิเมตร ส่วนใหญ่จะมีระยะช่องห่างจะมีขนาด 20×20 เซนติเมตร ส่วนมากจะใช้ปูพื้นบ้าน โรงรถ ลานจอดรถ พื้นโรงงาน
- ไวร์เมชขนาดตั้งแต่ 6 มิลลิเมตร จะใช้สำหรับงานปูถนนได้เพราะสามารถรับน้ำหนักได้ดี
- ไวร์เมชขนาด 9 มิลลิเมตร หรือ 12 มิลลิเมตร จะใช้สำหรับงานปูถนนที่ต้องการการรับแรงที่มากและรับน้ำหนักที่หนักมากๆ
การเลือกใช้ไวร์เมช
เนื่องจากไวร์เมชเป็นตัวที่จะช่วยเสริมให้คอนกรีตที่ใช้ในการสร้างบ้านต่างๆ แข็งแรงขึ้น ความแข็งแรงของคอนกรีตจึงขึ้นอยู่กับขนาดของเหล็กเส้นที่นำมาใช้ทำไวร์เมช และระยะห่างของช่องแต่ละช่องเป็นหลัก ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจว่าต้องซื้อไวร์เมชแบบใด ผู้ใช้งานควรต้องพิจารณาตั้งแต่ประเภทของงานก่อสร้างที่จะนำไปใช้งาน ขนาดของเหล็กเส้นที่นำมาทำ และความห่างของช่องแต่ละช่อง
พิจารณาประเภทของงานก่อสร้าง
เพราะว่างานก่อสร้างแต่ละประเภท มีความหนาบางของตัวคอนกรีตและลักษณะของตัวอาคารไม่เหมือนกัน การเลือกไวร์เมชมาใช้งานจึงขึ้นอยู่กับการพิจารณาประเภทของงานก่อสร้างเป็นหลัก ซึ่งช่วยให้เลือกใช้ตะแกรงไวร์เมชประเภทต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
พิจารณาเส้นผ่านศูนย์กลางของลวด
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของลวดหรือเหล็กเส้นที่นำมาใช้ในการทอเป็นไวร์เมชจะมีตั้งแต่ 2-12มิลลิเมตร ยิ่งหนามากเท่าไหร่ แสดงว่ายิ่งแข็งแรงมากเท่านั้น
- การสร้างรั้วล้อมรอบบ้าน รั้วกั้นฟาร์ม ฯลฯ แนะนำให้ใช้ตะแกรงไวร์เมชขนาด 2-3มิลลิเมตร
- งานก่อสร้างทั่วไป เช่น บ้าน สามารถใช้ตะแกรงไวร์เมชขนาด 3-4 มิลลิเมตร
- การสร้างพื้นลานจอดรถหรือพื้นสนามบิน ที่ต้องการความคงทนในการรับแรงกดทับอันมหาศาล ควรใช้ตะแกรงไวร์เมชขนาด 6-9 มิลลิเมตร
- พื้นถนนที่ต้องรับแรงกระแทกและแรงกดดันตลอดเวลา ควรใช้ตะแกรงไวร์เมชขนาด 9-12 มิลลิเมตร
พิจารณาขนาดของช่องตาราง
ระยะห่างที่เหมาะสมของช่องตารางบนไวร์เมชจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้คอนกรีตแข็งแรงมากขึ้นไปอีก ซึ่งขนาดของช่องตารางที่ว่านี้ มีทั้ง 10 x 10 เซนติเมตร, 15 x 15 เซนติเมตร, 20 x 20 เซนติเมตร, 25 x 25 เซนติเมตร และ 30 x 30 เซนติเมตร หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน
วิธีการใช้งานไวร์เมช
การใช้งานไวร์เมชและการเทพื้นคอนกรีตสำหรับก่อสร้างสิ่งต่างๆ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูง ควรทำทุกขั้นตอนด้วยความถูกต้อง ละเอียด และเอาใจใส่ ตั้งแต่ขั้นตอนของการเลือกซื้อวัสดุอย่างไวร์เมช ไปจนถึงขั้นตอนของการเทพื้นคอนกรีต เพราะถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นกับการเทพื้นคอนกรีต อาจจะเป็นการผสมที่ผิดพลาด การวางไวร์เมชผิด หรือพื้นคอนกรีตไม่เรียบเนียน อาจจะต้องรื้อใหม่ทั้งหมดได้
การติดตั้งไวร์เมช
1.เตรียมพื้นผิว
เริ่มต้นด้วยการเตรียมพื้นผิวที่เราจะก่อสร้างให้พร้อม พื้นต้องมีความเรียบ ไม่เป็นหลุม หากไม่ขรุขระก็จะเป็นการดีที่สุด เมื่อพื้นเรียบแล้ว เราก็จะเททรายลงไปตามระดับความสูงที่ต้องการ จากนั้นก็ทุบพื้นทรายให้มีความหนาแน่นขึ้น ที่สำคัญคือต้องอย่าลืมลดระดับหน้าดิน เพื่อรองรับความหนาของทรายและปริมาณของคอนกรีตที่จะเท
2.เทคอนกรีต
เริ่มตั้งแต่การลำเลียงคอนกรีตที่จะต้องทำด้วยความรวดเร็ว เพื่อลดโอกาสที่คอนกรีตจะแยกชั้นกัน ต่อไปเป็นการเทคอนกรีตลงไปแล้วเกลี่ยให้ทั่ว โดยแนะนำให้เทลงไปต่ำกว่าพื้นที่ที่ต้องการประมาณ 5 เซนติเมตร ซึ่งถ้าเรามีการเตรียมคอนกรีตมาดี กำหนดปริมาณของคอนกรีตได้อย่างเหมาะสม และเทด้วยวิธีที่ถูกต้อง หน้าคอนกรีตก็จะเรียบสวย ไม่มีปัญหาใดๆ
3.วางไวร์เมช
หลังจากที่เทคอนกรีตไปแล้วชั้นแรก ก็จะวางไวร์เมชลงไป และเทคอนกรีตอีกชั้นปิดท้าย เกลี่ยหน้าพื้นคอนกรีตให้เรียบเสมอกัน ตรวจสอบให้ดีว่าไม่มีเศษหินหรือใบไม้ต่างๆ ปะปนลงไป จากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้และรอให้พื้นแห้ง
ข้อควรระวังในการใช้ไวร์เมช
- เลือกขนาดของงไวร์เมชให้เหมาะสมกับงาน
- ตรวจสอบว่าไวร์เมชที่ซื้อมามีคุณภาพและมีความสม่ำเสมอระหว่างช่องตารางหรือไม่
- ไม่ควรวาง ไวร์เมชไว้บนพื้นดินโดยตรง ควรใช้พลาสติกปูรองก่อน เพราะเหล็กไวต่อความชื้นมาก
- หากไวร์เมชได้รับความชื้นจากพื้นดินผ่านคอนกรีตขึ้นมา อาจจะทำให้ตะแกรงไวร์เมชเกิดสนิมได้
- ไม่ควรเหยียบไวร์เมชและระวังไม่ให้ไวร์เมชจมดิน
- แนะนำให้ใช้ปูนรองตะแกรงเอาไว้ก่อนเทคอนกรีตระวังไม่ให้มีเศษอะไรตกหล่นลงไปในคอนกรีต เทคอนกรีตให้ทั่ว และเกลี่ยให้เรียบเนียน
ประโยชน์ของไวร์เมช
การใช้งานไวร์เมชนั้น จะเป็นการปูลงไปที่คอนกรีต เพื่อทำให้คอนกรีตมีความแข็งแรงขึ้น เปรียบเสมือนว่าไวร์เมชเป็นโครงสร้างหรือฐานที่จะเอาไว้ให้คอนกรีตยึดเหนี่ยวก็ว่าได้ ไวร์เมชไม่เพียงแต่ช่วยให้บ้านหรืออาคารมีความปลอดภัยขึ้นเท่านั้น ยังช่วยประหยัดแรงและประหยัดเวลาในการก่อสร้างได้อีกด้วย
- ทำให้คอนกรีตเกาะตัวกันได้ดีขึ้น โอกาสที่คอนกรีตจะแตกหรือหลุดออกจากกัน จึงมีน้อยลง ทำให้พื้นและอาคารจะผุพังได้ยาก
- เมื่อใช้ไวร์เมชร่วมกับคอนกรีต ในการปูพื้นถนนหรือพื้นบ้าน จะทำให้พื้นมีความหนาแน่น สามารถรับแรงกระแทกและแรงกดทับต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม
- ช่วยให้ทำงานก่อสร้างได้เร็วขึ้น เพราะเราสามารถเอาไปปูหน้างานได้เลย ไม่ต้องมานั่งผูกนั่งตัดเหล็กทีละเส้นให้เสียเวลา
- ช่วยลดการเสียเศษเหล็กไปโดยเปล่าประโยชน์ได้ดี เพราะไวร์เมชเป็นตะแกรงเหล็กที่มีกำลังคลาก (Yield Strength) สูงกว่าเหล็กเส้นธรรมดา
- สามารถสั่งผลิตตามขนาดที่ต้องการได้ เพื่อให้มีขนาดและความยาวเหมาะสมกับพื้นที่ที่ผู้ใช้งานต้องการ
- ไวร์เมช แบบกัลวาไนซ์ไวร์เมช เป็นตะแกรงเหล็กไวร์เมชที่ชุบเคลือบสารกัลวาไนซ์ ซึ่งมีคุณสมบัติกันสนิม กันความชื้น และกันการผุกร่อนได้ดี ทำให้ช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น สามารถนำไปใช้ในงานหลังคา รองฉนวน ฝ้า เพดาน หรือโครงสร้างที่ต้องการโชว์ผังเหล็ก
เลือกซื้อไวร์เมชที่ จีเอสวัสดุ มั่นใจได้เลยว่าเป็นไวร์เมชที่มีความแข็งแรง ได้รับมาตรฐาน มอก. สามารถนำไปใช้งานโครงสร้าง หรืองานที่ต้องการได้อย่างหายห่วง อีกทั้งยังสามารถระบุขนาดตามที่ต้องการได้ ผู้ใช้งานจะได้รับไวร์เมชได้ตรงตามที่ต้องการอย่างแน่นอน
จีเอสวัสดุ เราพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องเหล็ก ด้วยประสบการณ์อย่างยาวนานกว่า 30 ปี ไม่ว่าลูกค้าต้องการที่จะนำเหล็กไปทำอะไร ต้องการใช้เหล็กประเภทไหน เรายินดีให้คำแนะนำ นอกจากเหล็กรูปพรรณเราก็ยังมีเหล็กเส้นกลม เหล็กข้ออ้อย ไวร์เมช ตะแกรงเหล็ก วัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์เครื่องช่าง เราก็มีให้ลูกค้าได้เลือกใช้ เพียงมาที่ จีเอสวัสดุ รับรอง ครบ จบ ในที่เดียว อีกทั้งยังมีบริการส่งฟรี 200 กม. และทั่วไทย ไม่ว่าจะร้านค้า หรือหน้างานเราก็พร้อมส่ง ให้บริการอย่างดีเยี่ยมเพื่อให้ลูกค้าทุกคนประจับใจ เรื่องเหล็ก ไว้ใจ…จีเอสวัสดุ